วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

ดอกส้มสีทอง จบ

บรรยากาศในคฤหาสน์แดงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า  เมื่อท่านเจ้าสัวประมุขใหญ่ล้มป่วยลงเป็นระยะเวลานาน  เนื่องจากวัยและร่างกายที่อ่อนแอ  ประกอบกับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอและความหึงหวงที่ท่านเจ้าสัวมักพบเห็น  โดยเฉพาะกับ  ไทรรัตน์  บุตรชายนายพลสหายเก่าแก่ผู้หนึ่งของท่าน  ซึ่งท่านเจ้าสัวและเม่งฮวยหมายตาจะให้มาเป็นคู่ชีวิตของกรองกาญจน์บุตรสาว  กรองกาญจน์นั้นไม่เคยสนใจชายหนุ่มที่บิดามารดาพยายามจัดหาให้เลย  ยังคงชอบใช้ชีวิตโสดและวุ่นวายกับการสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น  ท่านเจ้าสัวมักเก็บตัวอยู่แต่ในห้องกุหลาบ  ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของโรสคุณนายที่สามผู้ล่วงลับไป

อ่านต่อ

ดอกส้มสีทอง 3

ก้องเกียรติรู้สึกตัวตื่นขึ้นตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่สาง  มีร่างใครคนหนึ่งซึ่งนอนข้างๆ โผเข้ากอดอย่างรวดเร็ว  ก้องเกียรตินึกโกรธตัวเองนัก  ตามกำหนดการเดิมของเขาคือมาเยี่ยมน้องชาย  แต่เนื่องจากไม่ได้นัดกับน้องชายจึงคลาดเคลื่อนกัน  มีเพียงเสียงข้อความที่อัดไว้ว่าเขาจะไม่อยู่บ้านตลอดทั้งเดือน  ทีแรกก้องเกียรติคิดว่าจะกลับไปหาณฤดีและพักผ่อนอยู่กับเธอที่ยุโรปสักพัก  และรับเธอกลับกรุงเทพฯพร้อมกัน  แต่แล้วด้วยเสียงรบเร้าและก่อกวนจากนางฟ้าแสนสวยผู้นี้  ก็ทำให้เขาใจอ่อนยอมให้เธอพาเที่ยวเล่นไปรอบๆ เมืองอยู่หลายวัน  สมดังความตั้งใจของนางฟ้าตาหวานโดยแท้  เพราะความใจอ่อนของเขาอีกครั้ง  ก้องเกียรติคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พา  เรืองยศ  เข้ามาสนิทสนมจนทำให้คำแก้วแม่เลี้ยงสาวของเขาต้องวิกลจริตไปก่อนวัยอันควร  เมื่อเห็นภาพความสัมพันธ์อันอุจาดตาในค่ำคืนนั้น  ความสัมพันธ์ในคืนนั้นที่เขาเผลอตัวไป  ทำให้เรื่องยศเข้าใจผิดตีความเป็นอย่างอื่น  จนสุดท้ายต้องจบชีวิตลงท่ามกลางมหาสมุทร  เพียงเพราะการไม่ยอมรับความรักที่ผิดรูปแบบแผนปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป  และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งเช่นกันที่ก้องเกียรติรู้สึกว่าชีวิตของตนเองเลวร้ายลงไปทุกที

อ่านต่อ

ดอกส้มสีทอง 2

วันคืนผ่านไปลำยองคลอดบุตรสาวออกมา  หน้าตาน่ารักน่าชังเหมือนบังดุลผู้เป็นพ่ออย่างยิ่ง  ด้วยความรักและความสงสารที่ลูกเกิดมากำพร้าพ่อ  ลำยองจึงตามใจลูกสาวคนเดียวในทุกๆ เรื่อง  ด้วยความที่เกิดมาหน้าตาเหมือนแขก  ทุกคนรวมทั้งมารดาจึงเรียกเธอว่า  แขก  ซึ่งเรยาเกลียดนักหนา  เธอไม่ชอบให้ใครมาล้อกำพืดของตนเอง  เด็กน้อยแม้อายุเพียง 5 ขวบแต่ก็มีท่าทางก้าวร้าว  ไม่กลัวใคร  ทะเยอทะยาน  หัวสูงจนหลายต่อหลายครั้งลำยองรู้สึกอ่อนใจในพฤติกรรมของบุตรสาว  แต่ด้วยความรักลูกนางจึงปล่อยเลยตามเลย  ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมแย่ๆ ของบุตรสาว  เรยามักเรียกแทนตัวเองเสมอว่า  ฟ้า  ซึ่ง

อ่านต่อ

ดอกส้มสีทอง 1

เรยา วงศ์เศวต หญิงสาววัยประมาณ 20ปี สาวสวยหน้าตาคมเข้ม ผิวคล้ำนวลเนียน หน้าตากระเดียดไปทางแขกมากกว่าไทย เรยาเกลียดการเรียนหนังสือตั้งแต่เล็ก และมักหาข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงไม่ไปโรงเรียนเสมอ จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย เรยาแต่งตัวออกจากบ้านทุกวันในชุดนักศึกษาแต่ไม่เคยไปถึงมหาวิทยาลัยเลย


วันนี้เธอกำลังเข้ารับการสัมภาษณ์โดย สินธร ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบุคคลบริษัทสยาม ทรานเนชั่นแอร์เวย์ส ซึ่งถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในธุรกิจการบิน เธอมาสมัครเป็นแอร์โฮสเตส อาชีพซึ่งหญิงสาวแทบทุกคนใฝ่ฝัน เพราะเป็นอาชีพที่สะดวกสบาย ได้เดินทางและได้พบปะกับบุคคล




อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

เคล็ดลับการลงทุน

วันนี้ ขอเผยเคล็ดลับการลงทุน รวมทั้ง การเลือกหุ้นลงทุนของ คุณชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล หรือที่รู้จักกันดีว่า 'เสี่ยอ้วน' ท่านเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาลวิภาวดี


'ผมรักที่จะลงทุนในตลาดหุ้น ... มันสนุกดี แม้วันนี้อายุปาเข้าไป ๖๓ ปีแล้ว

ก็จะลงทุนไปเรื่อย ๆ ส่วนตัวตั้งเป้าในใจ ไม่ว่าจะลงทุนอะไรต้องได้กำไรทุกปี

ผมมีคติก่อนจะฝากชีวิต(เงิน) ไว้ในมือใคร ต้องดูให้ดีก่อนว่า ที่ผ่านมาผู้บริหารคนนั้น

ดูแลผู้ถือหุ้นดีหรือเปล่า ?'

นักลงทุนรายใหญ่ท่านนี้ ได้เล่าถึงกลยุทธ์การลงทุนส่วนตัวอย่างอารมณ์ดีว่า วันนี้พอร์ตลงทุนของผมก็อยู่ระดับ ๒,๐๐๐ - ๓,๐๐๐ ล้านบาท สูงขึ้นกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่อยู่ระดับ 'พันล้านบาท' โดยจะซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ ๒๐๐ ล้านบาท

อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

คุณคิดอย่างไร

อย่าไปให้ความสำคัญกับใครบางคน


เมื่อคุณเป็นแค่ทางเลือกของเขา


สัมพันธภาพจะดีที่สุดเมื่อทั้งสองฝ่าย


ให้ความสำคัญอย่างสมดุล




ไม่ต้องสาธยายเกี่ยวกับตัวคุณให้ใครฟังหรอก


เพราะคนที่ชอบคุณยังไงเขาก็ชอบ


และไม่ต้องการฟังมัน


แต่คนที่เกลียดคุณ


ยังไงเขาก็ไม่เชื่อคุณหรอก






เมื่อคุณพูดแต่ว่าคุณยุ่ง


คุณก็จะไม่ว่างเลย


เมื่อคุณพูดแต่ว่าคุณไม่มีเวลา


คุณก็จะไม่มีเวลาเลย


เมื่อคุณพูดแต่ว่าคุณจะทำในวันพรุ่งนี้


วันพรุ่งนี้จะไม่มีวันมาถึงเลย






เมื่อเราตื่นขึ้นมาในยามเช้า



เรามีทางเลือกง่าย ๆ 2 อย่าง


คือกลับไปนอนและฝันหวานต่อ


หรือลุกขึ้นมาแล้วทำความฝันให้เป็นจริง


มันก็แล้วแต่คุณจะเลือกแล้วละ






เรามักทำให้คนที่เป็นห่วงเราต้องร้องไห้


เรามักร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เคยใส่ใจเรา


และเรามักใส่ใจกับคนที่ไม่มีวันร้องไห้ให้เรา


นี่คือความจริงของชีวิต เป็นเรื่องแปลกแต่จริง


ถ้าเห็นคุณเห็นด้วย มันก็ยังไม่สายเกินแก้






เมื่อคุณกำลังสนุกสนาน ก็อย่ารับปากพล่อยๆ


เมื่อคุณกำลังเศร้า ก็อย่าได้ตอบกลับ


เมื่อคุณกำลังโกรธ ก็อย่าไปตัดสินใจอะไร


คิดให้ถี่ถ้วน ทำอย่างสุขุม






เวลาก็เหมือนสายน้ำ


คุณไม่มีทางสัมผัสน้ำเดียวกันได้สองครั้งหรอก


เพราะมันได้ไหลผ่านไปแล้ว


มีความสุขกับทุกช่วงชีวิตของเราดีกว่า...